Lost in Vietnam : Under
- Anjana Wichalai
- Mar 29, 2019
- 1 min read
สวัสดีกลับมาอีกครั้งหลังทิ้งระยะห่างการเขียนบล็อคเป็นปี อันที่จริงเราไม่ได้หายไปไหนนะยังคงถ่ายภาพฟิล์มอย่างต่อเนื่องเพียงแต่ไม่ได้มาเขียนจริงๆจังๆเท่านั้นเอง วันนี้กลับมาพร้อมกับทริปไปประเทศเวียดนาม (ทาด๊าาา เสียงเปิดตัว) ในพาร์ทแรกนี้ขอตั้งชื่อว่า Under ฮะ ก่อนอื่นขอเล่ารายละเอียดของการไปเที่ยวครั้งนี้ก่อน เราไปเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาที่ผ่านกับเพื่อนสาว 1 คน วางแผนกันแบบ 2-3 วันสุดท้ายไฟลุกสุด ตั้งใจไป 6 วันแต่บังเอิญเพื่อนสาวมีเหตุให้ต้องกลับกลางทริปเราจึงต้องกลายเป็นสาวเหงาอยู่คนเดียวจนจบทริป ส่วนวันแรกเราอยู่กันที่ฮานอยฮะ บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนมากๆพยากรณ์อากาศที่อ่านมานี่ฝนตกแทบทุกวัน ภาพทั้งหมดในพาร์ทแรกเลยเป็นโทน Under แบบที่เห็นและนี่ก็เป็นที่มาของชื่อพาร์ทแรกฮะ
เอาล่ะ มาเริ่มกันที่เราจองตั๋วแอร์เอเชียทั้งไปและกลับออกเดินทางช่วงเช้ามาถึงฮานอยสายๆ (คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าเด้อมาสบายๆได้ถึง 1 เดือน) ออกจากเทอร์มินอลก็นั่งรถสาย 86 จากสนามบิน Noi Bai มาประมาณ 45 นาที ลงที่ Old Quarter เพื่อมาหาคุณเฮือง เนื่องจากเราจองรถทัวร์นอนขาไปช่วง 4 ทุ่มเพื่อไปซาปาในวันถัดไปและอยากอาบน้ำฝากกระเป๋าจึงจองผ่านคุณเฮืองสะดวกกว่า (จริงๆเราสามารถจองรถทัวร์ รถไฟเองได้ผ่านเว็บไซต์นะราคาพอๆกันแต่ต้องหาที่ฝากกระเป๋าและที่อาบน้ำเองยุ่งยากหน่อย) ฝากกระเป๋าเสร็จก็ออกมาเดินเที่ยวในฮานอยและไปจองตั๋วดูละครหุ่นกระบอกน้ำในวันที่กลับจากซาปา
เรามาฮานอยเป็นครั้งที่ 2 เลยคุ้นชินหลายๆอย่างโดยเฉพาะกับเสียงแตรรถ มาที่นี่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมหูนิดนึงจ้าาา บ้านเมืองเขาสวยงามมากตึกสีสวยมีทั้งตึกโบราณและตึกทรงฝรั่งผสมผสานได้อย่างลงตัว ถนนสองเลนที่มีร้านข้าวร้านกาแฟขายเต็มสองข้างทางส่วนใหญ่ร้านค้าจะนั่งเก้าอี้เล็ก (เหมือนเก้าอี้นั่งยอง) กับโต๊ะเล็กตรงทางเท้าเลยและต้องขอบอกว่าที่นี่มีคาเฟ่เยอะมาาาาาก อาจจะไม่ได้ถ่ายมาไว้ทั้งหมดเพราะเราก็มัวแต่เดินเพลินเหมือนกัน เอาล่ะมาเริ่มกันที่วงเวียนน้ำพุแลนด์มาร์คแรกของเรา ...

ที่นี่เป็นใจกลางเมือง Old Quarter มีวงเวียนและการจราจรที่คับคั่งมากๆ ประเดิมด้วยเสียงแตรรถและลีลาการขับรถที่เปรี้ยวมากจ้า

ตรงกลางจะมีวงเวียนน้ำพุด้วยนะ คิดว่าเดินไปถ่ายรูปสักหน่อยแต่พอเจอรถที่นี่ โอเคไม่ไปดีกว่า ฮ่าๆๆ

สามล้อถีบที่นักท่องเที่ยวชอบนั่งกันโดยจะมีพี่เวียดเขาเป็นคนปั่นส่วนนักท่องเที่ยวนั่งเก้าอี้แดงด้านหน้า ปั่นวนรอบๆเมืองเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสูงอายุชอบมาก


บริเวณน้ำพุมีร้านกาแฟและคาเฟ่น่ารักมากมาย เรามากันที่ The Note Coffee ทั้งร้านจะมีโน้ตแปะ แต่ละโน้ตก็มาจากลูกค้านี่แหละ มีเขียนเฟส ไอจี เขียนหาคู่ก็มี

เมนูที่เราสั่ง คือ Mango Orange Smoothie

ใกล้ๆกับวงเวียนเป็นทะเลสาบคืนดาบหรือ hoan kiem lake ส่วนสะพานสีแดงนั้นชื่อ Thê Húc bridge

ถ้าเราเดินข้ามสะพานมาจะพบกับวัด Ngoc Son ซึ่งที่นี่จะมีตะพาบถูกสต๊าฟไว้ด้วย (แต่เราไปไม่เจอจ้าาา คนบาปอะไรแบบนี้)

วัด Ngoc Son

เราเดินออกจากวัดมานั่งเล่นริมทะเลสาบและนี่คือเพื่อนสาวของเราเอง เจ้าแบะ แบะ แบะ

ทริปนี้เราพกเจ้าบ๊อบมาด้วย Hello Bob !!

นี่เป็นบรรยากาศในเมืองตอนที่เราเดินเล่นรอบๆฮานอยเพื่อไปจองตั๋วละครหุ่นกระบอกน้ำ


ส่วนใหญ่จะเป็นตึกยาวลึกเข้าไปมีประมาณ 3-4 ชั้น บางที่รีโนเวทเป็นคาเฟ่หรือโฮสเทลชิคๆเยอะเลย



นี่เป็น Cộng Cà Phê คาเฟ่อยู่ตรงข้ามกับโบสถ์ St. Joseph (จริงๆคาเฟ่นี้เหมือนเป็นเฟรนไชส์อะ มีทั่วไปในเมืองฮานอยหรือในเวียดนามเลยมั้ง)

ร้านค้าเค้านั่งกันแบนี้ นั่งเก้าอี้ตัวเล็กข้างทางเลย

เซลฟี่หน่อย (:
เมื่อช่วงบ่ายเราไปกิน Bun Cha ที่ร้าน Bun Cha Dac Kim อาหารมื้อนี้เป็นเหมือนเส้นขนมจีน (มีให้ทุกโต๊ะแบบอินฟินิตี้) กินกับน้ำซุปที่ใส่มะม่วงดิบ มีหมูสามชั้นย่าง ก้อนหมูสับย่าง และผักสดแบบอินฟินิตี้เช่นกัน มื้อนี้ให้ 10/10 ทั้งความอร่อยและความอิ่มเลย เมนูนี้กาดอกจัน 800 ดอกเลยจ้า มาแล้วต้องลอง
ช่วงเย็นเราฝากท้องที่ร้าน Bánh mì 25 ไม่ได้ถ่ายฟิล์มมาให้ดูเพราะลืมจ้าาความหิวบดบังทุกสิ่งเลย เราเคยไปแล้วติดใจมากครั้งนี้เลยพาเพื่อนมาชิม Bánh mì เป็นอาหารของเวียดนามที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศสทำมาจากขนมปังที่กรอบนอกนุ่มในคล้ายๆขนมปังฝรั่งเศสแต่ไม่แข็ง ไส้มีผักชี แตงกวา แครอท และเนื้อต่างๆ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว หมูสับตับบด เพิ่มชีสได้ก็มี เป็นอาหารที่หรรษาสุดๆ สุดท้ายเจ้าเพื่อนสาวคนนี้ก็ติดใจไปตามๆกัน อร่อยจริง อยากให้มาลอง
ช่วงค่ำเราสองคนกลับไปอาบน้ำและเตรียมตัวขึ้นรถทัวร์นอนเพื่อไปซาปา งั้นคงต้องขอจบพาร์ทนี้ไว้เท่านี้ก่อนพาร์ทหน้าเจอกันที่ซาปาฮะ (:
Anjana Wichalai
Comentarios